เรื่องเล่าจากแม่
แม่ทำขนมมาตั้งแต่เริ่มสาวจนถึงปัจจุบัน อายุ๘๖-๘๗ (๒๕๕๘) ก็เลยอยากจะวางมือจึงเล่าให้ลูกชายคนเล็กฟังว่าอยากเลิกทำขนม
แม่ทำขนมมาตั้งแต่เริ่มสาวจนถึงปัจจุบัน อายุ๘๖-๘๗ (๒๕๕๘) ก็เลยอยากจะวางมือจึงเล่าให้ลูกชายคนเล็กฟังว่าอยากเลิกทำขนม
ผมเองก็ได้มีโอกาสหลายอย่างที่ได้สัมผัสและเรียนรู้วิถีไทยจากแม่และพ่อ ในเรื่องการทำขนมกงและกระยาสารท อีกทั้งได้มีโอกาสฝึกฝนการเป็นนักขายตั้งแต่เยาว์วัย
ขนมไทยไกลหวาน ” สะอาด สวย. หวานน้อย อร่อย เพื่อสุขภาพ ” ผมช่วยแม่พายหัวเรือในคลองแม่น้ำน้อยมาตั้งแต่เยาว์วัย ร้องขายขนมตามคำบอกเล่า สอนสั่งของแม่ แม่ไปไหนก็พาไปด้วย จึงเกิดการเรียนรู้แบบสั่งสมประสบการณ์ เกิดขึ้นโดยไม่รู้ตัว มารู้อีกทีก็ตอนที่เติบโตเป็นผู้ใหญ่ และยังโชคดีที่มองเห็นคุณค่า ของวัฒนะธรรมการกินและการทำขนมของแม่ อันมีค่ายิ่งที่คววรอนุรัษณ์ และ สืบทอดต่อไป คุณแม่ผมมีโรคประจำตัวหลายโรค หมายรวมถึงเบาหวาน อันน่าจะเกิดจากการรัปทานข้าวมากเกินไปจากพฤติกรรมการกินของคนสมัยเก่า และชอบรับประทานของหวาน อย่างยิ่งส่วนใหญ่ก็จะทำเองและทำครั้งละมากๆเนื่องจากมีลูกหลายคน ทุกครั้งที่แม่ทำขนมผมเป็นผู้ช่วยที่แสนดีครับทำตามที่บอกทุกอย่าง เพราะถ้าไม่ทำอาจโดนไม้เรียวตีก้นได้ครับ ธุรกิจเริ่มต้นจากกายะสาทร และ ขนมกง ซึ้งต่อมากลายเป็นสินค้าโอทอป 5 ดาวของจังหวัดอยุธยา จากผู้ประกอบการเชิงอนุรักษ์ ขนมสูตรโบราณจากบรรพบุรุษ แตกยอดเป็นขนมไทยเพื่อสุขภาพเพื่อไห้แม่ทานขนมไทยของโปรดได้ ” ขนมไทยไกลหวาน จึงเกิดขึ้น หลังจากวิทยานิพนธ์ ความคิดเห็นของผู้บริโภคขนมไทในเขตกรุงเทพมหานคร ” คนกรุงเทพไม่ใช่ตัวแทนคนทั้งประเทศ แต่คนกรุงเทพเป็นตัวแทนกลุ่มคนรักและห่วงใยสุขภาพในอนาคตได้เป็นอย่างดี สุขภาพดีซื้อหาด้วยเงินทองมิได้ ต้องลงมือปฏิบัติเองอย่างเคร่งครัดถึงจะได้มาซึ่งสุขภาพพลานามัยดี ของตนเอง องค์ประกอบที่ทำไห้มีสุขภาพดี ได้แก่ ความสะอาด ขนมไทยไกลหวานเคร่งคัดเรื่องความสัอาดเป็นอันดับต้นๆ เพื่อความปลอดภัยในสุขภาพ และ ปรุงแต่งด้วยความสวยงามเพื่อไห้ผูบริโภคมีความสุขในการรับประทานขนมไทนไกลหวาน อย่างมีความสุขใจ รสชาด ที่หวานน้อย เพื่อสุขภาพกาย และยังคงไห้ความอร่อยเหมือนทานขนมไทยในวันวาน …… 9 พฤษภาคม 2558 ประเสริฐ จรรยชาติ (ปราศรี)